บทบาทของมหาวิทยาลัยรังสิตกับการเคลื่อนไหวเรื่องกัญชาเสรี
สุริยะใส กตะศิลา
Abstract
การศึกษานี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาบทบาทของมหาวิทยาลัยรังสิตในการรณรงค์เรียกร้องเพื่อปลดล็อกกัญชาเสรี เพื่อศึกษาจุดคานงัดและจุดเปลี่ยนในการเคลื่อนไหวภาคประชาชน เพื่อแก้ไข พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 เพื่อให้กัญชาสามารถใช้เป็นยารักษาโรคได้ จากการศึกษาพบว่า ในวิถีชีวิตไทยเรื่องของกัญชามีให้เห็นมายาวนาน และความนิยมของกัญชาในอดีตยังปรากฏหลักฐานอยู่ในจิตรกรรมฝาผนังอีกด้วย แต่ภูมิปัญญาในการนำกัญชามาใช้ทางการแพทย์ของไทยก็ได้ขาดตอนลง หมดความสืบเนื่อง หมดพัฒนาการไป แต่ในทางกลับกันหลายประเทศ อาทิ ประเทศอเมริกา และประเทศออสเตรเลีย และอีกหลายประเทศกลับอนุญาตให้มีการปลูกและใช้กัญชาเป็นทั้งยาทั้งอาหารเพื่อสันทนาการอย่างถูกกฎหมาย แม้จะมีกระแสสังคมและภาคปฏิบัติการ การเคลื่อนไหวของภาคประชาชน เพื่อคัดค้านต่อต้านกฎหมายดังกล่าวเป็นระยะก็ตาม แต่ก็ไม่บรรลุผลใดๆ จนกระทั่งจุดเปลี่ยนสำคัญถือว่าเป็นจุดคานงัดที่ทำให้กัญชาเสรีได้รับการตอบรับจากสังคมและเกิดการถกแถลงในระดับนโยบายอย่างเข้มข้นกว้างขวางเริ่มต้นจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์และงานวิจัยของมหาวิทยาลัยรังสิตพบสาระสำคัญในกัญชาที่ยับยั้งเซลล์มะเร็งได้จนเกิดปฏิกิริยาตอบรับในวงกว้างของสังคมและนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงผ่อนปรนในระดับนโยบายจากจุดเริ่มต้นดังกล่าวทำให้เกิดการตื่นตัวและการตอบรับในเรื่องกัญชาทั้งหมดดังที่กล่าวมาปรากฏการณ์ดังกล่าวจึงถือเป็นความสำเร็จของขบวนการเคลื่อนไหวทางสังคมที่ส่งผลให้มีการเปลี่ยนแปลงทางนโยบายตามมาทั้งนี้การเคลื่อนไหวรณรงค์เรียกร้องของภาคประชาชนมีทั้งภาคปฏิบัติการผ่านการจัดกิจกรรมเรียกร้องของกลุ่มองค์กรต่างๆอย่างกว้างขวางและการต่อสู้ในภาควาทกรรมทั้งนี้ชุดวาทกรรมที่ภาคประชาสังคมใช้ ก็คือ “กัญชาคือยารักษาโรค” หรือ วาทกรรม “กัญชาคือยาวิเศษ” จึงถือว่า ขบวนการเคลื่อนไหวทางสังคมเรื่องกัญชาเสรีเป็นขบวนการเคลื่อนไหวที่ประสบความสำเร็จ เพราะสามารถผลักดันไปสู่ระดับนโยบายและปฏิบัติได้
Keyword : กัญชาเสรี, การเคลื่อนไหวทางสังคม, มหาวิทยาลัยรังสิต
Download : PDF Full Text